บทความ

คลายสงสัย! น้ำมันหอมระเหยคือน้ำหอมใช่หรือไม่?

น้ำมันหอมระเหยคืออะไร

แม้จะเป็นเครื่องหอมที่มอบความผ่อนคลายได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ‘น้ำมันหอมระเหย’ นั้นมีความแตกต่างจาก ‘น้ำหอม’ โดยสิ้นเชิง ทั้งในเรื่องของกลิ่น การผลิต อายุการใช้งาน ไปจนถึงคุณประโยชน์ที่จะได้รับ แล้วน้ำมันหอมระเหยแท้กับน้ำหอมในท้องตลาดทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร น้ำมันหอมระเหยคือสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์มากกว่าน้ำหอมจริงไหม บทความนี้มีคำตอบ

น้ำมันหอมระเหยคืออะไร?

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า น้ำหอมจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่วางขายในท้องตลาดนั้นเป็นน้ำมันหอมระเหยประเภทหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำมันหอมระเหย หรือ Essential Oil นั้นจะเป็นน้ำมันที่พืชและดอกไม้สร้างขึ้นตามส่วนต่าง ๆ เพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค ศัตรูพืช มลภาวะ รวมถึงสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติในช่วงฤดูต่าง ๆ

ด้วยเหตุนี้ น้ำมันหอมระเหยจึงมีสรรพคุณที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ทั้งยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยยังมีองค์ประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทำให้เมื่อใช้งานในปริมาณที่เหมาะสมและต่อเนื่องจะทำให้สุขภาพของผู้ใช้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น

น้ำมันหอมระเหยคือน้ำหอม จริงไหม?

ใครหลายคนมักเข้าใจว่า น้ำมันหอมระเหยคือน้ำหอมรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมีกลิ่นหอมที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยนั้นเป็นกลิ่นหอมตามธรรมชาติของพืชและดอกไม้ที่นำมาสกัด โดยกลิ่นหอมเฉพาะตัวเหล่านี้ถือเป็นตัวกลางที่ช่วยดึงดูดให้แมลงมาผสมพันธุ์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ทำให้พืชและดอกไม้รอดชีวิตต่อไปได้นั่นเอง

น้ำมันหอมระเหยมีวันหมดอายุหรือไม่?

น้ำมันหอมระเหยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 2 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา ประเภทของพืช ไปจนถึงกระบวนการที่ใช้ในการสกัด

สำหรับใครที่ต้องการเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยไว้ให้ได้นานที่สุด แต่ยังมีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน ขอแนะนำให้เก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยในขวดแก้วสีเข้ม หรือขวดแก้วสีชาเพื่อป้องกันการสัมผัสกับแดด นอกจากนี้ ยังควรเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยเอาไว้ให้ห่างจากความร้อน เพื่อป้องกันการระเหยเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ดี หากเก็บน้ำมันหอมระเหยอย่างถูกต้อง แต่ภายในขวดเริ่มมีตะกอนนอนก้น แปลว่าน้ำมันหอมระเหยดังกล่าวหมดอายุการใช้งาน หรือเสื่อมสภาพแล้ว ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้งาน เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

น้ำมันหอมระเหยแท้กับน้ำหอมทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร

น้ำหอมคืออะไร?

เมื่อเข้าใจว่าน้ำมันหอมระเหยคืออะไร มีอายุการใช้งานและการเก็บรักษาอย่างไรบ้างแล้ว ในส่วนนี้ลองมาทำความเข้าใจกันต่อเลยว่า น้ำหอมคืออะไร แล้วน้ำมันหอมระเหยแท้กับน้ำหอมในท้องตลาดทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร

น้ำหอม (Perfume) เป็นสารละลายประเภทหนึ่งที่เกิดจากการนำสารประกอบที่ให้ความหอมมาผสมกับตัวกระจายกลิ่นที่แตกต่างกันไปตามสูตรของผู้ผลิต ซึ่งอาจเป็นน้ำ แอลกอฮอล์ หรือ น้ำมันก็ได้เช่นกัน

สารประกอบที่ให้ความหอมในน้ำหอมนี้สามารถเป็นได้ทั้งน้ำมันหอมระเหย ตลอดจนกลิ่นสังเคราะห์ที่เกิดจากการผสมสารเคมีต่าง ๆ จนให้ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์และตรงกับกลิ่นความหอมตามธรรมชาติของพืช ดอกไม้ และสิ่งของที่พบได้ในชีวิตประจำวัน

ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความผ่อนคลายเท่านั้น แต่น้ำหอมยังเป็นเครื่องหอมที่ช่วยเสริมเอกลักษณ์และบุคลิกให้กับผู้ใช้งาน แต่จะไม่มีคุณสมบัติที่ช่วยในการปรับสมดุลสุขภาพและร่างกายได้เหมือนกับน้ำมันหอมระเหย

ประเภทของน้ำหอม

หลายคนมักเข้าใจว่า น้ำมันหอมระเหยคือน้ำหอมแบบ EDC หรือ Eau de Cologne เนื่องจากเป็นกลิ่นหอมที่อยู่ได้ไม่นาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว EDC หรือ Eau de Cologne เป็นหนึ่งในประเภทของน้ำหอม โดยในปัจจุบันนี้ น้ำหอมจะมีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก คือ

  • Eau de Cologne (EDC) กลิ่นติดทน 1 – 2 ชั่วโมง มีส่วนผสมของสารประกอบที่ให้กลิ่นหอม 2% – 5%
  • Eau de Toilette (EDT) กลิ่นติดทน 2 – 3 ชั่วโมง มีส่วนผสมของสารประกอบที่ให้กลิ่นหอม 10%
  • Eau de Parfum (EDP) กลิ่นติดทน 4 – 5 ชั่วโมง มีส่วนผสมของสารประกอบที่ให้กลิ่นหอม 15% – 18% จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง

อายุการใช้งานน้ำหอม

ส่วนใหญ่แล้ว น้ำหอมจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 5 ปี นับตั้งแต่วันที่เปิดขวดออกมาใช้ โดยหากน้ำหอมเริ่มมีสีที่ผิดปกติ ตลอดจนมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น แปลว่าน้ำหอมขวดดังกล่าวมีโอกาสที่จะเสื่อมสภาพแล้ว

สำหรับที่ต้องการเก็บน้ำหอมเอาไว้ใช้ได้นาน ๆ ขอแนะนำให้ปิดฝาน้ำหอมทันทีเมื่อใช้เสร็จ หลังจากนั้นนำน้ำหอมไปเก็บไว้ในห้องที่เย็น มืด และห่างจากแสงแดดให้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังควรเก็บน้ำหอมให้ห่างจากพื้นที่เปิดโล่ง ตลอดจนไม่ควรนำไปไว้ในห้องน้ำ เนื่องจากน้ำหอมบางชนิดสามารถดูดกลิ่นได้

สรุป! น้ำมันหอมระเหย VS. น้ำหอม ต่างกันที่ตรงไหน?

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ ใครหลายคนคงพอเข้าใจแล้วว่า น้ำมันหอมระเหยนั้นมีความแตกต่างจากน้ำหอมตั้งแต่ในเรื่องของกระบวนการผลิต ส่วนผสม ไปจนถึงคุณสมบัติที่ส่งผลต่อร่างกายและสุขภาพ

โดยน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหอมที่ใช้งานทั่วไป ในขณะที่น้ำมันหอมระเหย คือ สารสกัดจากธรรมชาติที่สามารถใช้ดูแลสุขภาพได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าเชื้อโรค ไปจนถึงการปรับสมดุลการนอนหลับและอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลา

เคล็ด(ไม่)ลับ เลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยได้ตอบโจทย์

เพื่อรับคุณประโยชน์จากน้ำมันหอมระเหยได้อย่างเต็มที่ ควรเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยแท้ที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วทึบ หรือขวดแก้วสีชา อีกทั้งยังมีเอกสารรับรองคุณภาพอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการรับรอง Certificate of Analysis (COA) และ Material Safety Data Sheet (MSDS) โดยสามารถศึกษารายละเอียดการเลือกน้ำมันหอมระเหยแท้เพิ่มเติมได้ในบทความนี้

นอกจากจะต้องเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยแท้แล้ว ทุกคนยังควรเท่าทันต่อข้อมูลเฉพาะของน้ำมันหอมระเหยด้วย เช่น โดยส่วนใหญ่แล้ว น้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้มักจะมีราคาสูงกว่าพืชทั่วไป เนื่องจากสารสำคัญในดอกไม้มักโดนความร้อนทำลายได้ง่าย ทำให้ต้องเลือกใช้วิธีการสกัดพิเศษที่ต้องใช้ทั้งอุปกรณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ไม่เพียงเท่านั้น แม้จะเป็นสารสกัดจากพืชธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพืชทุกชนิดจะสามารถสกัดออกมาเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ ดอกแก้ว ดอกปีบ ราตรี และดอกโมกนั้นยังไม่สามารถสกัดน้ำมันหอมระเหยออกมาได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน อย่าลืมศึกษารายละเอียดในส่วนนี้ให้ดี

เพียงเท่านี้ก็หมดข้อสงสัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า น้ำมันหอมระเหยคืออะไร และน้ำมันหอมระเหยแท้กับน้ำหอมในท้องตลาดทั่วไปแตกต่างกันอย่างไร มีอายุการใช้งานและวิธีการเก็บรักษาให้เหมาะสมอย่างไรแล้ว

สำหรับใครที่ต้องการปรับสมดุลสุขภาพและอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลาของวัน แต่ยังไม่มั่นใจว่าควรจะเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยแบบใดให้เหมาะสม Sabai arom มาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำการเลือกน้ำมันหอมระเหยที่ตอบโจทย์ ตลอดจนช่วยแนะนำการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อการดูแลสุขภาพได้จริง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Sabai arom หรือโทร 097-264-2401