ทำงานหนัก ใช้สายตานานก็อาจทำให้เกิดอาการไมเกรนได้! เรื่องที่ชาวออฟฟิศรู้กันดีแต่หนีไม่พ้น ทำได้แค่กินยาบรรเทาอาการ หรือพักสายตาระยะสั้น ๆ จนกว่าอาการปวดจะทุเลาลง อย่างไรก็ตาม วิธีดังกล่าวอาจไม่ได้ผลเสมอไป จะดีกว่าไหมถ้ามีเคล็ดลับสู้ไมเกรนที่ช่วยป้องกัน และบรรเทาอาการไปพร้อม ๆ กันอย่าง “น้ำมันหอมระเหยแบบลูกกลิ้ง” ไอเทมพกพาสะดวกที่คนรุ่นใหม่ควรมี พร้อมแนะนำวิธีใช้ ป้ายตรงไหนให้ผ่อนคลายอาการปวดได้บ้างในเวลาทำงาน?
น้ำมันหอมระเหย ช่วยบรรเทาไมเกรนได้จริง!
การใช้น้ำมันหอมระเหย ถือเป็นหนึ่งในเคล็ดลับสู้ไมเกรนที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของสุคนธบำบัด โดยมีประวัติการบำบัดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1928 โดยเงื่อนไขที่ทำให้น้ำมันหอมระเหยสามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนให้ลดลง คือต้องมาจากการเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่สกัดมาจากพืชหรือดอกไม้ ไม่ใช่สารเคมีที่ถูกสังเคราะห์กลิ่นขึ้นมาเฉย ๆ
ซึ่งในปัจจุบันก็ได้ถูกนำมาผสมผสานกลายเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหอมที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เห็นว่าจะได้รับความนิยมมากที่สุด คงจะเป็นในรูปแบบของลูกกลิ้ง เนื่องจากมีขนาดที่พกพาได้ง่าย และหยิบมาใช้งานได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง และสำหรับใครที่เผชิญอาการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ใช้งานลูกกลิ้งอโรม่าได้อย่างตอบโจทย์ หัวข้อถัดไปเรามีคำตอบ
5 จุดแต้ม กลิ้งเบา ๆ ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้
- ขมับ: ทาลูกกลิ้งน้ำมันหอมระเหยที่ขมับ ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างหน้าผากใกล้กับไรผม ค่อย ๆ หมุนออยล์เป็นวงกลม หรือนวดให้ซึมเข้าสู่ผิว
- หน้าผาก: กลิ้งออยล์ลงบนหน้าผาก โดยเน้นที่บริเวณระหว่างคิ้วขึ้นไปทางไรผม นวดน้ำมันหอมระเหยเข้าสู่ผิวโดยใช้นิ้วทาวนเป็นวงกลมอย่างอ่อนโยน
- คอและไหล่: ทาลูกกลิ้งน้ำมันหอมระเหยที่หลังคอและฐานของกะโหลกศีรษะ นอกจากนี้ยังสามารถกลิ้งน้ำมันลงบนไหล่ เพื่อทำการนวดคลายในบริเวณที่เป็นจุดสะสมความตึงเครียด
- ข้อมือและจุดชีพจร: กลิ้งน้ำมันลงบนข้อมือหรือจุดชีพจรอื่น ๆ บนร่างกาย เช่น ด้านในข้อศอกหรือหลังเข่า เพราะบริเวณเหล่านี้มีหลอดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงกว่า จึงทำให้สามารดูดซึมน้ำมันหอมระเหยได้ดี และกระตุ้นกลิ่นให้กระจายตัวได้อย่างผ่อนคลาย
- หลังใบหู: ทาลูกกลิ้งน้ำมันหอมระเหยหลังใบหูบริเวณที่มีผิวบาง จะช่วยดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนะนำให้ค่อย ๆ คลึงหรือนวดให้น้ำมันหอมระเหยซึมเข้าสู่ผิว หลังจากนั้นให้สูดดมกลิ่นและรอเวลาให้ออกฤทธิ์บรรเทาอาการ
4 คำแนะนำการใช้น้ำมันหอมระเหยให้ได้ผลและปลอดภัย
ควรมีเปอร์เซ็นต์ความเจือจางของน้ำมันหอมระเหยอยู่ที่ 1-2%
เนื่องจากการใช้น้ำมันหอมระเหยเข้มข้น อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ทั้งทางผิวหนังและระบบหายใจ ซึ่งผลิตภัณฑ์ลูกกลิ้งอโรม่าก็ได้ผ่านการผสมและเจือจางน้ำมันมาอย่างพอเหมาะ โดยจะอยู่ในอัตราส่วนประมาณ 1-2% ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่ปลอดภัยนั่นเอง
ควรเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยแบบลูกกลิ้ง
เนื่องจากเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน ปริมาณออยล์ที่ออกมาสัมผัสผิวแต่ละครั้งอยู่ในระดับที่เหมาะสม บวกกับสัมผัสที่ผ่อนคลายคล้ายการนวดกดจุดจากลูกกลิ้ง ยิ่งตอบโจทย์การใช้งานในเชิงบำบัด ให้รู้สึกสบายอารมณ์ แถมยังใช้แต้มในจุดเล็ก ๆ อย่างขมับ ข้อมือ และหลังใบหูได้อย่างพอดี
ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในบริเวณที่มีความบอบบางสูง
หลีกเลี่ยงการทาน้ำมันหอมระเหยในบริเวณที่บอบบาง เช่น เปลือกตา หูชั้นใน หรือเยื่อเมือก เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรงได้ ในกรณีที่เกิดความผิดพลาด เข้าตาหรือเข้าหู ให้รีบล้างออกและไปพบแพทย์โดยทันที
ควรเริ่มต้นการใช้งานด้วยปริมาณที่เล็กน้อย
เพื่อทดสอบอาการแพ้ของร่างกาย ควรเริ่มใช้ในปริมาณน้อย ๆ ลองแตะบริเวณหลังหูหรือท้องแขน หลังจากนั้นให้สังเกตอาการเรื่อย ๆ หากแน่ใจแล้วว่าไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถเพิ่มปริมาณในการใช้งานได้
สำหรับใครที่อยากใช้ลูกกลิ้งอโรม่าเป็นเคล็ดลับสู้ไมเกรนที่พกพาไปได้ทุกที่ แถมมีกลิ่นหอมจรรโลงใจ อย่าลืมนึกถึงน้ำมันหอมระเหยแบบลูกกลิ้ง NO.5 Breathe Well จาก Sabai arom ลูกกลิ้งสูตรเบลนด์พิเศษที่จะช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมบำบัดอาการปวดหัวได้เพียงแค่สูดดม สามารถใช้แทนยาดมสังเคราะห์ได้ในทุกวัน ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ที่เข้าไปทำร้ายโพรงจมูก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Sabai arom หรือโทร 097-264-2401