บทความ

เช็กน้ำมันหอมระเหยแท้อย่างไร ซื้อที่ไหนถึงได้ของแท้ชัวร์?

น้ำมันหอมระเหยแท้ซื้อที่ไหนดี

น้ำมันหอมระเหยถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่มาพร้อมสรรพคุณมากมาย ซึ่งหากเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้จากธรรมชาติ ไม่ว่าจะซื้อที่ไหนก็สามารถช่วยบำบัดร่างกายในหลากหลายแง่มุม ช่วยฟื้นฟูอารมณ์ให้แจ่มใส ตลอดจนมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรงขึ้นได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยติดบ้านเอาไว้เพื่อช่วยดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

อย่างไรก็ดี น้ำมันหอมระเหยที่สามารถดูแลสุขภาพได้จริงนั้นจะต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้จากธรรมชาติที่มีวิธีการสกัดอย่างถูกต้องเท่านั้น สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเช็กน้ำมันหอมระเหยแท้อย่างไร ซื้อที่ไหนถึงจะได้รับน้ำมันหอมระเหยที่สามารถดูแลสุขภาพได้จริง สบายอารมณ์ชวนมาทำความรู้จักกับ 4 เช็กลิสต์เรื่องการซื้อน้ำมันหอมระเหยที่นำมาฝากในวันนี้กัน

1. เช็กฉลากก่อนเสมอ!

หากสงสัยว่าน้ำมันหอมระเหยแท้ควรซื้อที่ไหนดี ในขั้นตอนแรกสุดนี้ ลองมาทำความเข้าใจถึงประเภทของน้ำมันหอมระเหยในเบื้องต้น เพื่อจะได้รู้จักวิธีพิจารณาฉลากของน้ำมันหอมระเหยจากแหล่งขายที่สนใจอย่างถูกต้องกันก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว น้ำมันหอมระเหยจะประกอบด้วย 4 ประเภทหลัก คือ

  1. น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ (Pure Essential Oil) โดยน้ำมันหอมระเหยประเภทนี้จะมีความบริสุทธิ์ 100% มีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพและช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
  2. น้ำมันหอมระเหยผสม (Manipulated Essential Oil) เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีราคาถูกลงมา แต่จะมีการเติมสารแต่งกลิ่นเพื่อความหอม ซึ่งฉลากอาจมีการเขียนว่า Fragrance Added เข้าไป
  3. น้ำหอม (Perfume) เป็นน้ำมันหอมระเหยไม่บริสุทธิ์ มีการผสมสารสังเคราะห์อื่น ๆ ลงไปเพื่อความหอม และสรรพคุณอื่น ๆ ซึ่งฉลากอาจเขียนว่า Perfume Oil หรือ Fragrance Oil ซึ่งควรทดสอบการระคายเคืองก่อนใช้งานทุกครั้ง
  4. น้ำมันหอมระเหยสังเคราะห์ (Synthetic Essential Oil) เป็นสารเคมีแต่งกลิ่นเลียนแบบน้ำมันหอมระเหย แม้จะมีราคาถูกสุด แต่หากผลิตด้วยกรรมวิธีที่ไม่ถูกต้องก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพได้เช่นกัน โดยฉลากอาจเขียนไว้ว่าเป็น Perfume Oil หรือ Fragrance Oil

และเพื่อการดูแลสุขภาพที่ปลอดภัยมากที่สุด ควรเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยที่ฉลากเขียนว่าเป็นน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ 100% หรือหากใครไม่มั่นใจว่าน้ำมันหอมระเหยที่ซื้อเป็นของแท้หรือไม่ สามารถทดสอบได้ง่าย ๆ เพียงหยดน้ำมันหอมระเหยบนกระดาษ หากมีคราบมันหลงเหลืออยู่ก็แปลว่า เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีสารเคมีอื่น ๆ เจือปน หรือมีส่วนประกอบเป็นน้ำมัน แต่หากเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้ก็จะระเหยออกไปหมดนั่นเอง

2. อย่าลืมดูบรรจุภัณฑ์

ไม่เพียงแต่จะดูที่ฉลากและทดสอบเบื้องต้นเท่านั้น แต่การจะตัดสินใจว่าน้ำมันหอมระเหยควรจะซื้อที่ไหนดียังต้องพิจารณาบรรจุภัณฑ์ของน้ำมันหอมระเหยที่สนใจอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพจะต้องเก็บในบรรจุภัณฑ์สีทึบ สีน้ำตาลเข้ม เนื่องจากคุณภาพของน้ำมันหอมระเหยสามารถถูกแสงแดดทำลายได้ นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานยังควรเก็บเอาไว้ในขวดแก้ว หรืออะลูมิเนียม เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ในการกัดพลาสติกและกลายเป็นสีขุ่นได้

หากพบเจอแหล่งจำหน่ายใดเก็บน้ำมันหอมระเหยไว้ในขวดพลาสติก ก็ขอให้พิจารณาว่าเป็นของปลอม หรืออาจมีการเจือปนสารอื่น ๆ หรือน้ำมันหอมระเหยนั้น ๆ มีการเจือปนสารเคมีที่ละลายออกมาจากพลาสติกแล้ว ซึ่งควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

เช็กน้ำมันหอมระเหยแท้อย่างไร ซื้อที่ไหน

3. ตรวจสอบเอกสารรับรองคุณภาพด้วย

น้ำมันหอมระเหยที่สามารถใช้งานเพื่อดูแลสุขภาพในแง่มุมต่าง ๆ ได้จำเป็นที่จะต้องมีเอกสารรับรองคุณภาพ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เอกสารดังกล่าวนี้จะมีด้วยกัน 3 ประเภทหลัก จะประกอบไปด้วย

  1. Certificate of Analysis (COA) หรือใบรับรองคุณภาพสินค้า ซึ่งจะเป็นใบรายงานการทดสอบและวิเคราะห์สินค้าจากผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายน้ำมันหอมระเหย
  2. Material Safety Data Sheet (MSDS) หรือเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมีในทุกด้าน ซึ่งจะระบุตั้งแต่พิษ ความเป็นอันตราย วิธีใช้ การเก็บรักษาและการกำจัด 
  3. ผลการทดสอบ Gas Chromatography / Mass Spectrometry Analysis (GC/MS) ซึ่งเป็นเอกสารบ่งบอกถึงสารประกอบทุกประเภทที่พบในน้ำมันหอมระเหย โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยแท้จะมีเอกสารตัวนี้อยู่เสมอ

4. เลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ

หลังจากที่พิจารณาอย่างเข้มข้นไปแล้วถึง 3 เช็กลิสต์ ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ ขอแนะนำให้ทุกคนพิจารณาเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยจากแหล่งจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น โดยควรเลือกซื้อกับผู้จำหน่ายที่มีความรู้เกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหยอย่างถูกต้อง เข้าใจและรู้ถึงข้อจำกัดในการสกัดน้ำมันหอมระเหยแต่ละวิธี ตลอดจนรู้จักวิธีการใช้งานน้ำมันหอมระเหยอย่างปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ถึงการซื้อน้ำมันหอมระเหยแท้ที่มีคุณภาพจากผู้ขายที่มีความเชี่ยวชาญจะมีราคาสูงกว่าปกติ แต่หากตรวจสอบแล้วว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง น้ำมันหอมระเหยที่ได้ก็จะมีคุณภาพและสามารถใช้เพื่อดูแลสุขภาพในหลาย ๆ แง่มุมได้ ดังนั้น ขอแนะนำว่าอย่าเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยที่มีราคาถูกเกินจริง เพราะอาจใช้งานแล้วไม่ได้ผล หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

เพียงเท่านี้ ทุกคนก็สามารถตัดสินใจได้แล้วว่า น้ำมันหอมระเหยแท้ควรจะซื้อที่ไหน และมีข้อสังเกตอย่างไรบ้าง ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาน้ำมันหอมระเหยแท้ไว้ใช้งานเพื่อดูแลสุขภาพ Sabai Arom มาพร้อมกับน้ำมันหอมระเหยแท้จากธรรมชาติ 100% มีหลากหลายกลิ่นให้เลือกใช้งานตามไลฟ์สไตล์ มีเอกสารรับรองคุณภาพอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแนะนำการใช้น้ำมันหอมระเหยที่ปลอดภัยได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญตัวจริงได้ที่เบอร์ 097-264-2401 ตลอดเวลาทำการ