แจกวิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหย ใช้ได้นาน คุณภาพเหมือนเดิม

ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยทั้งแบบทา สูดดม และแบบนวด ต้องเคยประสบกับปัญหาการเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งานมาไม่มากก็น้อย นั่นอาจจะเป็นเพราะใช้วิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ค่อนข้างมีความอ่อนไหวกับปัจจัยภายนอกเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าใครอยากเลี่ยงโอกาสที่จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ ต้องติดตามในบทความนี้

ปัจจัยที่ทำให้น้ำมันหอมระเหยเสื่อมสภาพ

สำหรับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยมือใหม่ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้วิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยที่เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่การเสื่อมคุณภาพจนทำให้หมดอายุการใช้งานเร็วกว่าที่ควรจะเป็น นั่นอาจเป็นเพราะคุณได้นำผลิตภัณฑ์ไปไว้ในที่ที่มีปัจจัยเสี่ยง ซึ่งส่งผลทำให้ประสิทธิภาพค่อย ๆ ลดลง ถ้าไม่อยากให้เกิด ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้

• แสงแดด: เพราะแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงลึกถึงระดับโมเลกุล เป็นเหตุให้น้ำมันหอมระเหยเสื่อมคุณภาพ
• ความผันผวนของอุณหภูมิ: อุณหภูมิร้อนเกินไปจะทำให้น้ำมันหอมระเหย ระเหยไวกว่าที่ควร ในขณะเดียวกันหากเก็บไว้ในที่เย็นจัดก็จะทำให้ตกผลึก ส่งผลให้สีและกลิ่นเพี้ยนไปจากเดิม
• สัมผัสอากาศ: เพราะในอากาศมีออกซิเจน ซึ่งส่งผลให้น้ำมันหอมระเหยเกิดการออกซิเดชัน และกระทบต่อคุณสมบัติในการใช้บำบัดได้
• ความชื้น: มีส่วนทำให้เกิดการปนเปื้อนจากเชื้อราและแบคทีเรียที่อาจเจริญเติบโตได้ในน้ำมันหอมระเหย ส่งผลให้หมดอายุการใช้งานได้

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่ามีอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้น้ำมันหอมระเหยของคุณเสื่อมคุณภาพ ในลำดับถัดไปเราจะมาแนะนำวิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาจะสามารถใช้ได้นานอย่างที่ควรจะเป็น

วิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยที่ถูกต้อง

เพื่อเก็บรักษาประสิทธิภาพและประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยเอาไว้ใช้งาน ให้นานเท่าที่จะทำได้ คุณจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงวิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยตามหลักการที่ถูกต้อง ซึ่งเราจะมาเจาะลึกกันแบบชัด ๆ เป็นขั้นตอนว่ามีอะไรบ้างที่ควรทำ เพื่อยืดอายุการใช้งานและคุณสมบัติด้านการบำบัดให้ได้นานที่สุด

1. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิด เก็บเลี่ยงจากแสงแดด

กฎข้อแรกในวิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหย คือการเข้าใจถึงความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว ก็มักจะมาในรูปแบบของขวดสีชา สีเข้มหรือขวดทึบ เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้เข้าถึงของเหลวภายใน ในขณะเดียวกันหากน้ำมันหอมระเหยที่ซื้อมาเกิดมีบรรจุภัณฑ์ที่ชำรุด ไม่สามารถปิดได้สนิท ก็ควรที่จะต้องหาขวดใหม่เพื่อบรรจุแทน เน้นย้ำอีกครั้งว่าต้องเป็นสีชา สีเข้ม หรือขวดทึบที่มีฝาปิดอย่างมิดชิดเท่านั้น จึงจะช่วยป้องกันผลกระทบจากแสงและอากาศได้ดี

2. เก็บในที่ปลอดความชื้น อุณหภูมิไม่ผันผวนเกินไป

เพราะอุณหภูมิมีบทบาทที่สำคัญมากในการรักษาคุณภาพของน้ำมันหอมระเหย การเก็บเอาไว้ในที่เย็นและแห้งจึงเป็นทางเลือกที่ดี โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 60-70°F (15-25°C) เพื่อป้องกันไม่ให้องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยเปลี่ยนแปลงระหว่างการจัดเก็บ

3. เก็บให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง

อีกหนึ่งกฎของวิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหย แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาประสิทธิภาพการใช้งาน แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัย เพราะน้ำมันหอมระเหยบางชนิดอาจมีฤทธิ์ระคายเคืองต่อผิวของเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แนะนำให้เก็บไว้ในที่สูงและห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

4. มีน้ำมันตัวพา (Carrier oils) ติดบ้านไว้เสมอ

น้ำมันตัวพา (Carrier oils) อาทิ V-6 Vegetable Oil Complex, น้ำมันมะกอก, น้ำมันอัลมอนด์, น้ำมันมะพร้าว เพื่อใช้ผสมหรือเติมน้ำมันหอมระเหยในอัตราส่วนที่เหมาะสม ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยยืดอายุให้ใช้งานได้คุ้มค่า ก่อนหมดอายุ

ไอเดียการใช้น้ำมันหอมระเหยก่อนหมดอายุ

หลังจากได้เรียนรู้ถึงวิธีเก็บรักษาน้ำมันหอมระเหยกันไปแล้ว เรายังมีไอเดียดี ๆ สำหรับคนที่อยากใช้ผลิตภัณฑ์ให้หมดทุกหยดจนคุ้มค่ามาฝาก นั่นก็คือการนำน้ำมันหอมระเหยไปทำน้ำมันนวดผิว โดยผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสม ซึ่งน้ำมันหอมระเหยจะคิดเป็น 1-2 % ก่อนหยดในน้ำมันตัวพาที่อ่อนโยนสำหรับใช้กับผิวได้แบบไม่ระคาย อย่างน้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หรือน้ำมันโจโจบา

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้น้ำมันนวดตัวเอาไว้ทำสปาผ่อนคลายเองที่บ้าน ได้ทั้งกลิ่นอโรม่าหอมอบอวล พร้อมใช้สุคนธบำบัดไปในตัว โดยไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่ม แถมยังเป็นการใช้งานน้ำมันหอมระเหยอย่างคุ้มค่า ไม่ต้องเก็บไว้จนหมดอายุไปเอง

สำหรับใครที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย แต่ไม่รู้จะซื้อที่ไหน สามารถเลือกซื้อได้ที่ Sabai arom เพราะที่นี่เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำการใช้งานที่ถูกต้องอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายประเภท ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแน่นอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Sabai arom หรือโทร 097-264-2401